นายชัชวาลย์ วัฒนะโชติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เจ้าของช่อง Kim Property เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ตลาดคริปโตฯ ได้รับความสนใจระดับวงกว้างมีทั้งกองทุนหรือบริษัทใหญ่ ๆ เข้ามาซื้อขาย อีกทั้งตลาดทุนหรือเศรษฐกิจโลกมีความสัมพันธ์กับตลาดคริปโต เช่น เมื่อตลาดหุ้นราคาขึ้นหรือลง ฝั่งคริปโตก็ผันผวนตาม สำหรับระยะอย่างไตรมาส 3-4 มองถึงแรงกดดันและเหตุการณ์น่าจับตายังเป็นเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมไปถึงการทำ QT หรือการปรับสภาพคล่องที่ยังดำเนินการไปได้ไม่มาก และความเสี่ยงจากปัจจัยที่ 3 คือ ให้ระวังวิกฤติฟองสบู่ตลาดอสังหาฯและวิกฤติสงครามระหว่างประเทศ ทั้ง จีน รัสเซีย ไต้หวัน ที่ยังคงส่งผลในปีนี้หรืออาจจะกินเวลาไปจนถึงในปีหน้าคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง สำหรับในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อยนี้ จึงแนะนำให้ถือเงินสดเป็นหลักในระยะเวลา 6-7 เดือน ส่วนการจัดพอร์ตระยะสั้น เล็งเห็นถึงข้อดีของการปรับขึ้นดอกเบี้ย คือ อาจะซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้ เพราะผลตอบแทนค่อนข้างน่าสนใจ สำดับถัดมามองที่ หุ้น Growth ที่สามารถสร้างผลกำไรได้ดีจากกระแสเงินสด เช่น Apple, Google, Amazon คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง และคริปโตฯ ในลำดับสุดท้าย อีกทั้งการลงทุนต้องใช้เงินเย็นจริง ๆ มาลงทุน และต้องศึกษาให้ดีรู้จุดขายทำกำไรและขายขาดทุน เพราะหากผิดทาง อาจสูญเงินไปในทั้งหมด และหากมีความเชี่ยวชาญมากพออาจจะลองทำการบ้านเพิ่มในเรื่องของ NFT หรือถือเหรียญสกุลรองอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงปี 67 คาดว่าตลาดกลับมาเป็นช่วงขาขึ้น แต่ต้องดูในหลายเหตุการณ์ทั้งจากนโยบายของเฟด หรือเศรษฐกิจถ้ายังถดถอย ก็มีโอกาสที่เฟดจะกลับลำอัดฉีดเงินเข้าไปใหม่แต่คงยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ในส่วนเหตุการณ์การอัพเกรด The Merge ของ Ethereum น่าจะเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะเปลี่ยน Tokenomics แต่ไม่ใช่ตัวแปรหลัก มองในบวกก็ช่วยดันราคาตลาดและสร้างแรงกระเพื่อมได้ในแง่การยกฐาน นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง และกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ตลาดขาขึ้นจะกลับมาในปี 67 ได้มั้ย อันนี้ตอบได้ยาก เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้จุดต่ำสุดของตลาดหมีนี้ ตลาดขาลงแบบนี้ ไม่ต้องรีบเร่ง ถ้าเงินที่ลงทุนตอนนี้เป็นเงินเย็นยังไม่ต้องรีบขาย ใช้เวลาศึกษาโปรเจคท์ ถ้าคริปโตฯ ที่ยังมีการพัฒนาโปรเจคท์ อยู่ มีการดูแล Community ที่ดี ก็จะฉุกคิดได้ว่าโปรเจคท์เหล่านั้นตั้งใจพัฒนาจริง เป็นตัวจริง แล้วรอสร้างผลกำไรจากตลาดได้ในช่วงขาขึ้น และเราก็จะสามารถปรับตัวได้ทันในตลาดหมีรอบหน้าด้วย